ทำนายนิสัยของคุณและคู่รักจาก “เสื้อผ้า”

การเลือกใส่เสื้อผ้าก็ทำนายนิสัยความสัมพันธ์ของคุณและคนรักได้นะ

แน่นอนว่าคู่รักของใครหลายๆคนนั้น ก็ต้องมีรักที่หวานชื่นและขมขื่นกันบ้าง ซึ่งเราต่างก็หาเหตุผลกับความสัมพันธ์ว่าเกิดจากอะไร มาลองทดสอบดวงคู่รักโดยการทำนายนิสัยความสัมพันธ์คุณและคนรักจาก “เสื้อผ้า” กันดีกว่าค่ะว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

ทำนาย เสื้อผ้า ลักษณะความสัมพันธ์และนิสัยคุณกับคนรัก

 

ทำนายนิสัยจากเสื้อผ้า

เสื้อผ้าแนวแฟชั่นนิยม ใครที่ชอบใส่เสื้อผ้าแนวนี้นั้นจะชอบเป็นพวกที่เผด็จการความรัก ใครที่มารักคุณนั้นต้องทำใจ เพราะว่าคุณนั้นจะเป็นคนที่เอาแต่ใจมาก เป็นคนที่ค่อนข้างไม่ยอมใคร ถ้ามีเรื่องที่ต้องทะเลาะกัน คุณก็มักจะขุดเรื่องเก่าๆมาต่อว่า ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องเอาซะเลย คุณต้องเป็นคนที่เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ความรักของคุณนั้นถึงจะอยู่รอดต่อไปได้

ทำนายนิสัยจากเสื้อผ้า

เสื้อผ้าแนวเสื้อยืด แน่นอนว่าคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าแนวนี้ค่อนข้างจะเป็นคนที่สบายๆ และไม่เรื่องมาก แถมเป็นคนที่พิถีพิถันการเอาใจใส่ฝ่ายตรงข้าม เป็นคนที่โรแมนติกเลยทีเดียวเลยแหล่ะ แต่สิ่งที่ควรต้องระวังคือการแก้ปัญหาต่างๆด้วยวิธีการแบบเด็กๆ ไม่ค่อยนึกถึงผลระยะยาว ซึ่งมันอาจจะทำให้ความรักของคุณนั้นขมขื่นได้ชั่วพริบตาเลยทีเดียว

ทำนายนิสัยจากเสื้อผ้า

เสื้อผ้าแนวเสื้อเชิ๊ต คนที่ชอบใส่เสื้อผ้าแนวนี้ค่อนข้างจะเป็นใจเย็น มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ใครอยู่ด้วยเป็นต้องติดลมกับความใจดีของคุณ แน่นอนว่าคุณนั้นต้องเอาใจเก่ง หรือออกไปทางเจ้าชู้เลยแหล่ะ

เสื้อผ้าแนวเสื้อชุด ใครที่ชอบใส่เสื้อผ้าแนวนี้ไม่ว่าจะคุณหรือคู่รักของคุณก็มักจะเปลี่ยนคู่รักอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความอดกลั่น และไม่ชอบการเรียนรู้นาน คนที่ใช่ก็จะคือคนที่มองตากันแล้วรู้ใจเลย หากไม่ใช่ก็จะเขี่ยทิ้งทันที

‘สับปะรด’ กับ 10 ประโยชน์ที่เราอาจไม่เคยรู้ !

'สับปะรด' กับ 10 ประโยชน์ที่เราอาจไม่เคยรู้ !

สับปะรด จัดว่าเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว ติดอยู่ลิสต์ผลไม้สุดโปรดของใครหลายๆ คน นอกจาเรื่องของรสชาติ เมื่อกินจะรู้สึกสดชื่น ราคาสบายกระเป๋าแล้ว สับปะรดยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและประโยชน์อีกมากมาย วันนี้ เราจะพาไปดูซิว่า ยังมีประโยชน์เรื่องที่ไหนของสับปะรดที่พวกเรายังไม่เคยรู้มาก่อนกันบ้าง อย่าอ่านข้ามนะ !

10 ประโยชน์ของ ‘สับปะรด’ ที่เราอาจยังไม่เคยรู้

  1. สับปะรด นั้นเป็นผลไม้ที่ประโยชน์แทบทุกส่วน ตั้งแต่ใบที่สามารถนำมาทำเป็นผ้าใยสับปะรด , กระดาษ และเชือกได้ ส่วนเปลือกของมันก็เอาไปทำเป็นอาหารของวัวและใช้หมักเป็นปุ๋ยได้ ส่วนแกนของสับปะรดยังช่วยขับปัสสาวะและแก้นิ่วได้อีกด้วย ครบเครื่องจริงๆ
  2. สับปะรด ช่วยย่อยอาหารได้ โดยเฉพาะอาหารจำพวกที่เป็นโปรตีน ใครที่เป็นสาวกชาบู บุฟเฟ่ต์ละก็ เวลาแน่นๆ ท้องก็ให้กินสับปะรดเข้าไปตาม จะทำให้ช่วยย่อยได้นะ
  3. ใครที่เป็นพ่อบ้าน แม่บ้าน ชอบปรุงอาหารอยู่เป็นประจำ อยากจะทำเมนูประเภทสเต็กหมู สเต็กไก่ หากอยากจะได้เนื้อนุ่มๆ แล้วล่ะก็ ลองเอาเนื้อพวกนั้นไปหมักกับสับปะรดดูสิ รับรองว่าเนื้อจะนุ่มโดยไม่ต้องทุบให้เปลืองแรงเลยล่ะ
  4. สับปะรด ช่วยบำรุงผิวพรรณของเราให้ดูเปล่งปลั่ง สดใส มีออร่าขึ้นได้
  5. สับปปะรด เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยในการต่อต้านหวัด และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  6. สับปะรด มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิด ‘โรคมะเร็ง‘ ได้
  7. กินสับปะรดช่วยลดอาการท้องผูก
  8. สับปะรด ช่วยลดเสมหะที่อยู่ในลำคอ
  9. สับปะรด ช่วยทำให้สุขภาพช่องปาก ฟัน และเหงือกแข็งแรง
  10. สับปะรด ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่า ถึงแม้ สับปะรด จะเป็นตัวเลือกในการกินที่ดีสำหรับใครหลายคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก หรือหันมาดูแลสุขภาพ แต่หากเรากินเข้าไปมากๆ อาจทำให้เกิดอาการคันลิ้น หรือแสบลิ้นได้ แนะนำว่าให้กินแต่พอดี โดยปริมาณที่เหมาะ คือ 2 – 3 ชิ้นใหญ่หลังมื้ออาหารหลัก หรือไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วล่ะ

โปรแกรมบอลรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018

โปรแกรมบอลรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018

บอลโลก

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย โดยบรรดาทีมตัวเต็งอย่าง บราซิล และ ฝรั่งเศส ยังคงสามารถทำผลงานทะลุถึงรอบนี้ได้สำเร็จ

ส่วน เจ้าภาพ ทีมรัสเซีย ก็ยังคงอยู่ในเส้นทางการ เช่นเดียวกับอีก 5 ทีมที่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ ประกอบด้วย เบลเยียม, อุรุกวัย, อังกฤษ, สวีเดน และ โครเอเชีย

โปรแกรมบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย พร้อมช่องถ่ายทอดสด

 

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2561

 

 

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2561

 

 

อัพเดท ข่าวฟุตบอลโลก ตารางบอลโลก2018 ผลบอลโลก2018 ได้ที่ Sanook worldcup

21 มิ.ย. วันครีษมายัน วันที่ช่วงกลางวันนานที่สุดในรอบปี

วันครีษมายัน

(summer solstice) หรือ ครีษมายัน / อุตตรายัน ซึ่งเป็นวันที่ดวงอาทิตย์นั้นขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด และตกที่ทิศตะวันตกซึ่งเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด ทำให้ช่วงกลางวันนั้นยาวนานกว่าปกติในรอบปี ส่วนประเทศที่อยู่แถบซีกโลกเหนือนั้น เป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนทางซีกโลกใต้นั้นจะเป็นช่วงกลางวันที่สั้นที่สุดในรอบปี เป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว

วันคริษมายัน

ดารที่ดวงอาทิตย์นั้นโคจรไปยังจุด (Solstice) คือ เป็นจุดที่สุดทางเหนือ ในวันที่ 20 มิถุนายน และวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นจุดฤดูร้อน จึงทำให้เวลาในกลางวันนั้นยาวนานกว่ากลางคืน และเวลากลางวันจะยาวนานที่สุดในรอบปีของประเทศทางซีกโลกเหนือ ส่วนในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดวงอาทิตย์จะอยู่บนท้องฟ้านานเกือบ 13 ชั่วโมง

ซึ่งด้านความเชื่อใน วันครีษมายัน นั้นจะแตกต่างกันไปตามประเพณีทั่วโลก ซึ่งจะมีดังต่อไปนี้

วันเหมายัน เป็นวันที่ ชาวเมืองยวี่หลินในเขตการปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ของจีน ซึ่งจะเฉลิมฉลองตามประเพณีจะรับประทานเนื้อสุนัข เพราะเป็นที่เริ่มจ้นของฤดูร้อนของเดือนมิถุนายน หรอวัน ครีษมายันนั่นเอง

อีกหนึ่งประเทศที่ตั้งอยู่เส้นรุ้ง 23.5 องศาเหนือพอดี คือประเทศไต้หวัน เป็นประเทศที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงตกลงมายังพื้นในลักษณะมุมฉากพอดี เป็นเป็นความนิยมของการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความเชื่อทางด้านศาสตร์ และไต้หวันนั้นยังมีการโปรโมทเทศกาล Summer Solstice อย่างครึกครื้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ชอบทางวิทยาศาสตร์และความเชื่อนั้นหลั่งไหลเข้ามา

อีกหนึ่งประเทศที่ได้รับความนิยมคือที่ประเทศอังกฤษ สถานที่คือ กองหินสโตนจ์เฮ้นท์ (Stonehenge) จะมีผู้คนจำนวนมากแห่ไปรับพลังของสุริยะเทพ เพราะคนเหล่านั้นมีความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยยุคชาวดรูอิทโบราณ

Stonehenge

 

เมื่อเป็น ‘นักวิ่ง’ ก็ย่อมต้องเจอกับอาการบาดเจ็บ

เมื่อเป็น 'นักวิ่ง' ก็ย่อมต้องเจอกับอาการบาดเจ็บ

เดี๋ยวนี้เทรนด์ออกกำลังกายด้วยการวิ่งกำลังมาแรง เพราะแทบไม่ต้องมีอุปกรณ์ หรือตัวช่วยใดๆ เพียงแค่มีเวลากับสถานที่สำหรับวิ่งเท่านั้นก็เพียงพอ นับว่าเป็นการดูแลสุขภาพที่ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาแค่ 30 นาที ถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายด้วยรูปแบบใดก็ย่อมมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะเป็นนักวิ่งมืออาชีพแล้ว ยิ่งมือสมัครเล่นก็ต้องยิ่งระวัง ควรเริ่มจากทีละน้อย ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นจึงจะดี วันนี้เราก็มีข้อมูลมากฝากกันว่าการจะออกวิ่งแต่ละที ทำให้เราเกิดการบาดเจ็บในส่วนใดได้บ้าง

อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อออกวิ่ง

1. กระดูกล้า กระดูกหัก (Stress Fracture)

อาการเช่นนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในนักวิ่งมาราธอนจากสาเหตุที่ต้องฝึกซ้อมเป็นอย่างหนักและเป็นเวลายาวนาน ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนล้า ทำให้กระดูกไม่สามารถรับน้ำหนัก หรือแรงกระแทกได้มากอย่างที่เคยเป็น จนเกิดการแตกหักเล็กๆ อยู่ภายในโครงสร้างกระดูก บริเวณที่สามารถพบอาการเหล่านี้ได้บ่อย คือ บริเวณกระดูกเหนือข้อเท้า เป็นๆ หายๆ เมื่อหยุดวิ่งก็จะไม่มีอาการ แต่เมื่อกลับมาออกวิ่งอีกครั้งอาการปวดก็จะกลับมา ซึ่งเมื่อเราไปพบแพทย์และเอกซเรย์กระดูกดูจะไม่เห็นรอยแตก เนื่องจากมีขนาดที่เล็กมาก ฉะนั้นต้องระวัดระวังในการวิ่ง

2. อาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าด้านนอก (Iliotibial Band Friction Syndrome)

อาการนี้ รศ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์แพทย์ออร์โธปิดิกส์ และประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาเวชศาสตร์การกีฬา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ในคอลัมภ์ บอกเล่าก้าวทันหมอ ของนิตยสาร ฬ.จุฬา ว่า อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับหัวเข่าด้านนอกเกิดจากการเสียดสีกันของแถบเอ็นกล้ามเนื้อต้นขาด้านข้างกับปุ่มประดูก ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นในนักวิ่งที่ยืดกล้ามเนื้อก่อนวิ่งไม่เพียงพอ อาการจะเกิดขึ้นเมื่อพยายามเร่งความเร็วในการวิ่งช่วงสั้นๆ หรือข้ามระยะวิ่งจาก 5 กิโลเมตร เป็น 20 กิโลเมตร ทั้งที่ยังฝึกซ้อมได้ไม่มากพอก็อาจมีการนี้

3. กล้ามเนื้อสลาย

สำหรับนักวิ่ง หรือใครที่ออกวิ่งอยู่เป็นประจำก็อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อสลายได้ โดยเกิดขึ้นเมื่อต้องวิ่งในระยะทางไกลนานๆ เมื่อเดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ก็จะพบค่าเอนไซม์กล้ามเนื้อขึ้นสูงเกินกว่าปกติ มีความเสี่ยงที่กล้ามเนื้อจะสลายตัวปนเข้าไปในเลือดได้ หากนักวิ่งตกอยู่ในภาวะเสี่ยงกล้ามเนื้อสลายและเข้ารับการรักษาไม่ทัน ก็อาจเสี่ยงมีภาวะไตวาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้

สังเกตอย่างไรว่าตกอยู่ในภาวะกล้ามเนื้อสลาย เมื่อเข้าห้องน้ำปัสสาวะ ให้ลองสังเกตว่าสีของปัสสาวะมีสีเข้มรึเปล่า หากมีสีเข้มก็ให้ดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น

3. อาการบาดเจ็บที่เกิดจากความต่างกันของอุ้งเท้า

คนเราเกิดมาก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันแค่รูปร่าง หน้าตา หรือส่วนสูง แต่จุดเล็กอย่างอุ้งเท้าก็ไม่ได้เหมือนกันไปซะทีเดียว อย่างในนักวิ่ง ความแตกต่างกันของลักษณะอุ้งเท้านี้ก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น นักวิ่งที่มีอุ้งเท้าสูง มักพบว่ามีอาการเอ็นร้อยหวายตึงมากกว่าปกติ ส่วนนักวิ่งที่มีอุ้งเท้าแบน ก็อาจเกิดอาการปวดที่บริเวณอุ้งเท้า สาเหตุก็มาจากการลงน้ำหนักที่ฝ่าเท้าด้านในมากกว่าปกติ ฉะนั้น ใครตัดสินใจออกกำลังกายด้วยการวิ่ง หรือเข้าสู่การเป็นนักวิ่ง รองเท้าก็มีส่วนช่วยลดการเกิดอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี ควรเลือกให้เหมาะกับเท้าของตนเอง จะได้วิ่งได้นานและต่อเนื่องมากขึ้น

มาแล้ว !! Samsung Galaxy A6 และ A6+ อีกรุ่นที่น่าจับตามอง

มาแล้ว !! Samsung Galaxy A6 และ A6+ อีกรุ่นที่น่าจับตามอง

หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากซัมซุง คราวนี้ก็ถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว 2 รุ่นด้วยกัน คือ Samsung Galaxy A6 และ A6+ ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกจะมีลักษณะคล้ายกับ Galaxy A8 และ A8+ ใช้หน้าจอ SuperAMOLED แบบ Infinity Display ไร้ขอบ ขนาด 5.6 และ 6 นิ้วตามลำดับ มาพร้อมกับด้านหลังที่เป็นโลหะเหมือนกับ Samsung Galaxy J7 Pro นับว่าเป็นโทรศัพท์มือถืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในตอนนี้

มาแล้ว !! Samsung Galaxy A6 และ A6+ อีกรุ่นที่น่าจับตามอง

สเปคของทั้ง 2 เครื่องก็จะแตกต่างกัน หลักๆ ก็จะเป็น CPU โดย Galaxy A6 มาพร้อมกับ CPU Octa Core 1.6GHz กล้องหน้า-หลังความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ส่วน Galaxy A6+ นั้นจะมาพร้อมกับ CPU Octa Core 1.8GHz มีกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล และกล้องหลังคู่ความละเอียดอยู่ที่ 16 + 5 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่มีความจุ 3500 mAh

มาแล้ว !! Samsung Galaxy A6 และ A6+ อีกรุ่นที่น่าจับตามอง

จุดเด่นของทั้งสองรุ่นอยู่ที่การรองรับ NFC และบริการ Samsung Pay แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาที่แน่นอนออกมา เป็นไปได้ว่าทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในพื้นที่เอเชีย , ลาตินอเมริกา และยุโรปในช่วงต้นเดือนพฤษาคมนี้ ยังไงสาวกค่ายซัมซุงก็ต้องรอติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด

 

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองภาคบ่าย วันที่ 20 เมษา

ราคาทองคำช่วงเช้าอ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมระยะสั้นยังคงเป็้นการแกว่งตัวในกรอบสำหรับการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคาร กลางจากประเทศกลุ่ม G20 จะเสร็จสิ้นในวันนี้ หลังได้เริ่มเปิดฉากการประชุมไปเมื่อวาน โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่ น (BOJ) กล่าวว่า นโยบายกีดกันทางการค้าถือเป็นภัยคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ราคาทอง

ภาพ อัพเดตราคาทอง จาก sanook.com

นอกจากนี้นักลงทุนอาจต้องจับตาว่าจะมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การดำเนินมาตรการลดค่าเงินของประเทศต่างๆโดยเจตนา เพื่อก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการค้าหรือไม่ เนื่องจากนักลงทุนในตลาดเริ่มหันมาจับตา ประเด็นที่ว่าจีนอาจตอบโต้สหรัฐโดยการลดค่าเงินหยวน หากจีนส่งสัญญาณใดๆที่บ่งชี ้ถึงการเตรียมลดค่าเงินหยวน จะเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อราคาทองคำ

แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ราคาทองคำก็อาจจะขาดปัจจัยหนุนจากประเด็นดังกล่าวได้เช่นกัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขสำคัญทาง เศรษฐกิจของสหรัฐ แต่อาจต้องติดตามการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย.นี ้ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง

หากระยะสั้นราคาทองพยายามทรงตัวเหนือแนวรับ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ยังมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้าน ระดับ 1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับถัดไป 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยหากสามารถยืนเหนือ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้พิจารณาเข้าซื้อ (ตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เพื่อรอขายทำกำไรโดยพิจารณาดูบริเวณ 1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำขวัญวันเด็ก 2560 และคำขวัญวันเด็กแห่งชาติปีต่างๆ

คำขวัญวันเด็ก
คำขวัญวันเด็ก 2560 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 ให้กับเด็กๆ เยาวชนไทย เพราะเป็นข้อคิดคติเตือนใจ นั่นก็คือ

” เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง “

คำขวัญวันเด็ก ย้อนหลัง
พ.ศ. 2559 – โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ “เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต”

พ.ศ. 2558 – โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”

พ.ศ. 2557 – น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร – กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง

พ.ศ. 2556 – น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร – รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน

พ.ศ. 2555 – น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร – สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี

พ.ศ. 2554 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

พ.ศ. 2553 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2552 – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

พ.ศ. 2551 – พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ – สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2550 http://campus.sanook.com/1163949/ – พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ – มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

พ.ศ. 2549 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

พ.ศ. 2548 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด

พ.ศ. 2547 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน

พ.ศ. 2546 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี

พ.ศ. 2545 – พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร – เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส

พ.ศ. 2544 – นายชวน หลีกภัย – มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2543 – นายชวน หลีกภัย – มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2542 – นายชวน หลีกภัย ขยัน – ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2541 – นายชวน หลีกภัย ขยัน – ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2540 – พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ – รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

พ.ศ. 2539 – นายบรรหาร ศิลปอาชา – มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด

พ.ศ. 2538 – นายชวน หลีกภัย – สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2537 – นายชวน หลีกภัย – ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2536 – นายชวน หลีกภัย – ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2535 – นายอานันท์ ปันยารชุน – สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม

พ.ศ. 2534 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา

พ.ศ. 2533 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2532 – พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2531 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2530 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2529 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2528 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม

พ.ศ. 2527 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา

พ.ศ. 2526 – พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม

พ.ศ. 2525 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2524 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ – เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม

พ.ศ. 2523 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2522 http://campus.sanook.com/1163949/ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – เด็กไทยคือหัวใจของชาติ

พ.ศ. 2521 พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2520 นายธานินทร์ กรัยวิเชียร – รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย

พ.ศ. 2519 หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช – เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้

พ.ศ. 2518 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ – เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี

พ.ศ. 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ – สามัคคีคือพลัง

พ.ศ. 2516 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2515 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ

พ.ศ. 2514 จอมพล ถนอม กิตติขจร – ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

พ.ศ. 2513 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส

พ.ศ. 2512 จอมพล ถนอม กิตติขจร – รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ

พ.ศ. 2511 จอมพล ถนอม กิตติขจร – ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

พ.ศ. 2510 จอมพล ถนอม กิตติขจร – อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

พ.ศ. 2509 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี

พ.ศ. 2508 จอมพล ถนอม กิตติขจร – เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี

พ.ศ. 2507 งดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ

พ.ศ. 2506 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด

พ.ศ. 2505 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด

พ.ศ. 2504 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย

พ.ศ. 2503 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด

พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ – ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

พ.ศ. 2499 จอมพล ป.พิบูลสงคราม – จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม

วันเด็ก วันเด็กแห่งชาติ ประวัติวันเด็ก

วันเด็กแห่งชาติ ในประเทศไทย ตรงกับวันที่เสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี อีกทีมีการอำนวยคำขวัญเด็กโดยนายกรัฐมนตรีไทย โดยวันเด็กแห่งชาตินับเป็นวันหยุดราชการ แต่มิได้มีกำหนดให้หยุดชดเชยในวันทำการวันถัดไป วันเด็กแห่งชาติถูกจัดขึ้นหมายถึงครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งในช่วงนั้นกำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมเป็นวันเด็กแห่งชาติ จนกระทั่งมาถึงในปี พ.ศ. 2506 จัดหามามีมติเปลี่ยนแปลงวันเด็กแห่งชาติใหม่เป็นวันเสาร์ที่สองข้าวของเครื่องใช้เดือนมกราคม และเริ่มจัดงานวันเด็กหลังจากที่การเปลี่ยนแปลงมีผลในปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมา

ประวัติวันเด็ก
งานวันเด็กแห่งชาติ ถูกจัดขึ้นครอบครองครั้งแรกตราบวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนของนาย วี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพราะว่ามีจุดประสงค์แยกออกประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เด็กนั้นตระหนักถึงบทบาทสำคัญของตนในประเทศ มีการปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคมเพื่อเตรียมพร้อมกับการเป็นกำลังของชาติ ซึ่งรัฐบาลไทยในขณะนั้นได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาชุดหนึ่ง มีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน รวมถึงได้มาจัดให้มีการเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอีกด้วย

สำหรับการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในแต่ละปีนั้น มีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้เห็นถึงความสำคัญของตนเองที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และระเบียบวินัยที่มีต่อตนเองและต่อสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดจนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยกำหนดให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นทุกปี และจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2506 จนมาถึงปี พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เลื่อนออกไปและจัดให้มีอีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนวันเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงที่หมดฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการมาจนถึงทุกวันนี้

ในวันเด็กแห่งชาติของทุกๆ ปีก็จะกอบด้วยการให้คำขวัญวันเด็กแห่งชาติเป็นประจำทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2499 ในสมัยที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้คำขวัญวันเด็กประจำปีนั้นว่า “จงบำเพ็ญตนอำนวยเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม” ทำสละให้นับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษณ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นก็ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็กเป็นอย่างมาก จึงได้มอบคำขวัญให้เป็นข้อคิดคติเตือนใจสำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ http://event.sanook.com/day/children/ ก่อนที่จะถึงวันเด็กแห่งชาติ เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีในสมัยต่อมานับถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

คำขวัญวันเด็ก
ประจำปี 2560 โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

… รอคำขวัญ …
ประจำปี 2559 โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต
ประจำปี 2558 โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต
ประจำปี 2557 โดย นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง
>> ลองอ่าน: คำขวัญวันเด็กย้อนหลังได้ที่นี่

กิจกรรมวันเด็ก
กิจกรรมวันเด็กที่ถูกจัดขึ้นในวันเด็กแห่งชาตินั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามสถานที่ และรูปแบบของแต่ละชุมชน รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ในวันเด็กแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาลจะเปิดให้เด็กๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ณ ตึกไทยคู่ฟ้า รวมถึงมีโอกาสได้นั่งบนเก้าอี้ทำงานจริงของนายกรัฐมนตรีอีกด้วย หรืออย่างฐานทัพอากาศก็จะมีการจัดแสดงเครื่องบินที่ใช้ในการปฏิบัติการจริง แต่กิจกรรมวันเด็กที่เราจะเห็นได้อยู่ทั่วไปเลย คือ การแจกของรางวัล ขนม ไอศกรีมให้กับเด็กๆ ถือว่าเป็นกิจกรรมวันเด็กที่ทำให้เราอยากจะย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจริงๆ

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตแล้ว

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตแล้ว

น้องก็อต ทีทัช หนุ่มป่วยโรคกระดูกทำลายตัวเอง เสียชีวิตลงแล้ว หลังพักรักษาตัวเป็นเวลานาน วู้ดดี้-ชาวเน็ต ร่วมไว้อาลัยถึง

(17 ก.ย.) กลายเป็นข่าวสุดสะเทือนใจในช่วงเช้าวันนี้ เมื่อพิธีกรหนุ่มชื่อดัง วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ได้ประกาศแจ้งข่าวสุดเศร้าของ น้องก็อต ทีทัช อายุ 22 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคโรคกอร์แฮมดีซีส หรือ ภาวะกระดูกสลาย ได้รับเสียชีวิตลงอย่างสงบแล้ว หลังต่อสู้กับโรคนี้มาระยะหนึ่ง

วู้ดดี้ วุฒิธร ได้แจ้งข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า น้องก็อต ทีทัช ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมงานได้เข้าไปเยี่ยมน้องอีกครั้ง เพราะคุณแม่แจ้งว่าอาการของน้องค่อนข้างทรุดหนักลง วู้ดดี้ยังบอกว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้กระซิบบอกน้องว่า “เกินมาเพื่อเป็นพลังและแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน”

ทีมงานแจ้งว่า น้องก็อต ได้จากดำเนินอย่างสงบเมื่อคืนที่ตัดผ่านมา พร้อมกับขอบคุณที่สอนยกให้เรารู้ว่าเราทุกคนต้องรู้ว่าเราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในทางของเรา ตอนนี้สำคัญสุดคือคุณแม่ของน้องก็อต ขอส่งกำลังใจและพลังกำนัลคุณแม่และครอบครัวกนิษฐาก็อตที่จะเดินหน้าต่ออย่างมีพลังและภาคภูมิใจว่าลูกแม่เป็นครูให้หลายต่อหลายคน
ทั้งนี้ หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาร่วมไว้อาลัยตลอด น้องก็อต พร้อมกับเป็นกำลังใจให้เข้ากับครอบครัวของน้องก็อตด้วย

สำหรับเรื่องราวของ น้องก็อต ทีทัช เคยออกอาการผ่านรายการ วู้ดดี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเทปดังกล่าวมี ตูน บอดี้สแลม และ ก้อย รัชวิน ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องก็อตที่โรงพยาบาลด้วย น้องก็อต ป่วยดำรงฐานะโรคโรคกอร์แฮมดีซีส หรือ ภาวะกระดูกสลาย มีเพียง 200 กว่าคนที่ป่วยโรคนี้โดยไม่ทราบสาเหตุ

ก่อนที่จะทราบว่าป่วยเป็นโรคนี้ น้องก็อต เป็นคนสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ ทำงานส่งตัวเองเรียนและหาเลี้ยงครอบครัวอย่างมุ่งมั่น ทำรายได้เดือนละเป็นแสนๆ เพราะความขยันของตัวเอง แต่โรคดังกล่าวทำให้ชีวิตทุกอย่างพลิกผัน ครอบครัวต้องปิดกิจการร้านขายยและขายบ้าน เพื่อนำมาเป็นค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง ทำให้เรื่องราวของน้องก็อตกลายเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดีย